Customer Reviews

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวนักอ่านทุกคน วันนี้ผมมีหนังสือแบบผักๆมาแนะนำให้เพื่อนๆที่ชอบทานผักและมีพื้นที่ในการปลูกผักแบบจำกัดและเพื่อนๆที่รักสุขภาพเลยเลือกที่จะทานผักแบบปลอดภัยและปลอดสารพิษจากยาฆ่าแมลงตามท้องตลาดที่เราซื้อทานกันอยู่ทุกวันนั้น ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งครับที่พยายามปลูกผักเอง เลยหาซื้อหนังสือ ไฮโดรบอกซ์ ปลูกผักไม่ใช้ดิน ต้นทุนต่ำ ทำง่าย มาอ่านดู แล้วก็เริ่มลงมือทำตามหนังสือเลยครับ ไม่ยากเท่าไหร่ ผมจะขอแนะนำครับว่าวิธีในหนังสือสะดวกดีมาก ไม่ต้องไปทนเลอะกับดินครับ กว่าจะพรวนดิน หาพื้นที่ เตรียมปุ๋ย เตรียมกระถาง อุปกรณ์อะไรอีกเยอะๆ ใช้เวลาเป็นวันๆกว่าจะเสร็จ แถมยังเลอะมอมแมมอีก กว่าจะได้เก็บอีกทีก็นาน แถมก็ต้องมานั่งล้างดินอีก ผมแนะนำเลยครับหาหนังสือแบบผักๆเล่มนี้มาอ่านเลยดีกว่า ทำตามไปเลย ได้ผลชัวร์ๆแน่ๆ เพราะตอนนี้ผมก็ได้กินผักที่ผมปลูกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สะอาดปลอดภัยไร้กังวลใจไปเลยทีเดียว หาความรู้จากผักๆก็ดีไปอีกแบบครับ ของมันใกล้ตัว กินกันอยู่ทุกวัน ตอนแรกผมก็เห็นมันไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ แต่พอดีคุณแม่ท่านชอบทานผักครับ แล้วผักพวกนี้ที่ตลาดราคาแพงมาก ที่บ้านเราเลยมีโครงการที่จะปลูกกันเอง ก็เลยได้ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอำนวยความสะดวกนี่แหละครับ เลยอยากหยิบมารีวิวให้เพื่อนๆที่กำลังสนใจในเรื่องผักๆได้อ่านกันด้วย

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวนักอ่านทุกคน วันนี้ผมมีหนังสือแบบผักๆมาแนะนำให้เพื่อนๆที่ชอบทานผักและมีพื้นที่ในการปลูกผักแบบจำกัดและเพื่อนๆที่รักสุขภาพเลยเลือกที่จะทานผักแบบปลอดภัยและปลอดสารพิษจากยาฆ่าแมลงตามท้องตลาดที่เราซื้อทานกันอยู่ทุกวันนั้น ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งครับที่พยายามปลูกผักเอง เลยหาซื้อหนังสือ ไฮโดรบอกซ์ ปลูกผักไม่ใช้ดิน ต้นทุนต่ำ ทำง่าย มาอ่านดู แล้วก็เริ่มลงมือทำตามหนังสือเลยครับ ไม่ยากเท่าไหร่ ผมจะขอแนะนำครับว่าวิธีในหนังสือสะดวกดีมาก ไม่ต้องไปทนเลอะกับดินครับ กว่าจะพรวนดิน หาพื้นที่ เตรียมปุ๋ย เตรียมกระถาง อุปกรณ์อะไรอีกเยอะๆ ใช้เวลาเป็นวันๆกว่าจะเสร็จ แถมยังเลอะมอมแมมอีก กว่าจะได้เก็บอีกทีก็นาน แถมก็ต้องมานั่งล้างดินอีก ผมแนะนำเลยครับหาหนังสือแบบผักๆเล่มนี้มาอ่านเลยดีกว่า ทำตามไปเลย ได้ผลชัวร์ๆแน่ๆ เพราะตอนนี้ผมก็ได้กินผักที่ผมปลูกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สะอาดปลอดภัยไร้กังวลใจไปเลยทีเดียว หาความรู้จากผักๆก็ดีไปอีกแบบครับ ของมันใกล้ตัว กินกันอยู่ทุกวัน ตอนแรกผมก็เห็นมันไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ แต่พอดีคุณแม่ท่านชอบทานผักครับ แล้วผักพวกนี้ที่ตลาดราคาแพงมาก ที่บ้านเราเลยมีโครงการที่จะปลูกกันเอง ก็เลยได้ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอำนวยความสะดวกนี่แหละครับ เลยอยากหยิบมารีวิวให้เพื่อนๆที่กำลังสนใจในเรื่องผักๆได้อ่านกันด้วย

หนังสือที่เกี่ยวกับความคิดในมุมมองของคนที่มีความคิดต่าง และถ่ายถอดให้กับคนที่มีความคิดเหมือนๆกัน ปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ เป็นหนังสือที่ดูจากหน้าปกแล้ว เหมือนจะเป็นหนังสือที่สื่อเกี่ยวกับความคิดของคนเราเอง แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ แต่หากเป็นหนังสือที่สื่ออกมาในแบบของการแทรกการเมืองบ้าง และเรื่องเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใครที่ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสงครามศาสนาที่เกิดขึ้นภายในบ้านเราจะรู้ดีว่าไม่มีอะไรที่รุนแรงไปกว่าเรื่องของสามจังหวัดชาสยแดนภาคใต้เป็นแน่นอน เป็นหนังสือที่ผมอยากแนะนำให้เพื่อนๆที่ติดตามข่าวได้อ่านกันครับ ว่าเป็นไงมาไง ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะจบลง เป็นแบบว่ายืดเยื้อมานานเป็นสิบยี่สิบปีแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาเป็น ผมบอกเลยเท่าที่อ่านมา เรื่องการเมืองก็มีส่วนเกี่ยวไม่น้อยเลยครับ เหมือนกลายเป็นเรื่องธุรกิจไปแล้ว หนังสือทำออกมาค่อนข้างดี แต่ชื่อหนังสืออาจจะทำออกมาไม่ส่อไปในเรื่องนี้ซักเท่าไหร่นัก อันนี้ผมไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร เพราะที่ผมซื้อมาตอนแรก ผมคิดว่าหนังสือเกี่ยวกับเรื่องความคิดจิตวิทยาอะไรทำนองนี้ แต่พออ่านแล้วเซอร์ไพร์กว่าครับ ได้รู้อะไรดีๆ เด็ดๆ จากหนังสือเล่มนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว คนเขียนเก่งครับ มีความกล้าดีที่จะทำมันออกมา แถมยังได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่อีก สำหรับผมแล้วผมนับถือผู้เขียนมากครับ ต้องขอกบอกเลย เป็นอีกหนึ่งหนังสือดีที่ผมอยากจะแนะนำเพื่อนๆได้ให้อ่านกัน ใครที่สนใจเรื่องสงครามลองหาอ่านสงครามในบ้านเราดูครับ ลุกเป็นไฟไม่แพ้ชาติใดเลย

หนังสือที่เกี่ยวกับความคิดในมุมมองของคนที่มีความคิดต่าง และถ่ายถอดให้กับคนที่มีความคิดเหมือนๆกัน ปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ เป็นหนังสือที่ดูจากหน้าปกแล้ว เหมือนจะเป็นหนังสือที่สื่อเกี่ยวกับความคิดของคนเราเอง แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ แต่หากเป็นหนังสือที่สื่ออกมาในแบบของการแทรกการเมืองบ้าง และเรื่องเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใครที่ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสงครามศาสนาที่เกิดขึ้นภายในบ้านเราจะรู้ดีว่าไม่มีอะไรที่รุนแรงไปกว่าเรื่องของสามจังหวัดชาสยแดนภาคใต้เป็นแน่นอน เป็นหนังสือที่ผมอยากแนะนำให้เพื่อนๆที่ติดตามข่าวได้อ่านกันครับ ว่าเป็นไงมาไง ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะจบลง เป็นแบบว่ายืดเยื้อมานานเป็นสิบยี่สิบปีแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาเป็น ผมบอกเลยเท่าที่อ่านมา เรื่องการเมืองก็มีส่วนเกี่ยวไม่น้อยเลยครับ เหมือนกลายเป็นเรื่องธุรกิจไปแล้ว หนังสือทำออกมาค่อนข้างดี แต่ชื่อหนังสืออาจจะทำออกมาไม่ส่อไปในเรื่องนี้ซักเท่าไหร่นัก อันนี้ผมไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร เพราะที่ผมซื้อมาตอนแรก ผมคิดว่าหนังสือเกี่ยวกับเรื่องความคิดจิตวิทยาอะไรทำนองนี้ แต่พออ่านแล้วเซอร์ไพร์กว่าครับ ได้รู้อะไรดีๆ เด็ดๆ จากหนังสือเล่มนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว คนเขียนเก่งครับ มีความกล้าดีที่จะทำมันออกมา แถมยังได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่อีก สำหรับผมแล้วผมนับถือผู้เขียนมากครับ ต้องขอกบอกเลย เป็นอีกหนึ่งหนังสือดีที่ผมอยากจะแนะนำเพื่อนๆได้ให้อ่านกัน ใครที่สนใจเรื่องสงครามลองหาอ่านสงครามในบ้านเราดูครับ ลุกเป็นไฟไม่แพ้ชาติใดเลย

เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่มีผลงานออกมาเป็นภาพยนตร์ด้วยครับ เลยต้องหยิบมารีวิวให้ผู้อ่านที่กำลังหาหนังสือดีๆอ่านได้อ่านกัน เผื่อจะตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายขึ้นครับ เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องย่อให้ฟัง เพราะหนังสือเล่มนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นของชาติ คือประเทศอเมริกานั่นเอง หน่วย SEAL ซีลของอเมริกา คือหน่วยรบพิเศษที่บ้านเราเรียกว่า มนุษย์กบนั่นเอง ครับ ในหนังสือก็ไม่ต่างจากหนังมากเท่าไหร่ คือถ้าชอบหนัง ต้องซื้อหนังสือไปสะสมไว้ ว่าง่ายๆนั่นเอง เนื้อเรื่องในหนังสือจะเกี่ยวกับหน่วยซีลทีมหก ได้รับมอบหมายภารกิจ จาก ท่านประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ให้ทำภารกิจเกี่ยวกับการสังหาร ผู้ก่อการร้าย ชื่อดัง อุสซามา บินลาดิน นั่นเอง คือจากภารกิจ เอามาทำเป็นภาพยนตร์ ขัดแย้งทางประเทศอยู่เล็กน้อย แต่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง ผมว่าเหมือนประกาศศักดิ์ดาไปให้ กลุ่มก่อการร้าย อัลกออิดะ มากกว่า ว่าอย่ามาแหยมกับประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา ถ้าไม่เจ๋งจริง ฆ่าลูกพี่ใหญ่ไม่ได้ ซึ่งตอนปฏิบัติภารกิจนั้น หน่วย ซีล ทีมหกทุกคน จะมีกล้องออนไลน์ติดอยู่ที่หมวก เพื่อรายงานสดจากสถานที่และเหตุการ์ณจริงส่งตรงไปให้ท่านผู้นำประเทศมหาอำนาจได้ดู ใช้เวลาเป็นเซี้ยวเท่านั้น ก็สามารถปลิดชีพได้ทั้งหมด รวมไปถึงภรรยาของผู้ก่อการร้าย ผู้นี้ได้ด้วย หลังจากปลิดชีพได้ ก็นำศพมาตรวจดูให้แน่ใจว่าตายสนิท หลังจากนั้น ก็นำศพไปทิ้งที่กลางมหาสมุทร เพื่อให้แน่ใจว่า ตายแล้วตายจริง จะไม่กลับมาฟื้นให้เป็นภาระอีกรอบสอง เอาคะแนนไปร้อยเต็มเลยครับ สำหรับภาระกิจอันยิ่งใหญ่ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ

เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่มีผลงานออกมาเป็นภาพยนตร์ด้วยครับ เลยต้องหยิบมารีวิวให้ผู้อ่านที่กำลังหาหนังสือดีๆอ่านได้อ่านกัน เผื่อจะตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายขึ้นครับ เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องย่อให้ฟัง เพราะหนังสือเล่มนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นของชาติ คือประเทศอเมริกานั่นเอง หน่วย SEAL ซีลของอเมริกา คือหน่วยรบพิเศษที่บ้านเราเรียกว่า มนุษย์กบนั่นเอง ครับ ในหนังสือก็ไม่ต่างจากหนังมากเท่าไหร่ คือถ้าชอบหนัง ต้องซื้อหนังสือไปสะสมไว้ ว่าง่ายๆนั่นเอง เนื้อเรื่องในหนังสือจะเกี่ยวกับหน่วยซีลทีมหก ได้รับมอบหมายภารกิจ จาก ท่านประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ให้ทำภารกิจเกี่ยวกับการสังหาร ผู้ก่อการร้าย ชื่อดัง อุสซามา บินลาดิน นั่นเอง คือจากภารกิจ เอามาทำเป็นภาพยนตร์ ขัดแย้งทางประเทศอยู่เล็กน้อย แต่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง ผมว่าเหมือนประกาศศักดิ์ดาไปให้ กลุ่มก่อการร้าย อัลกออิดะ มากกว่า ว่าอย่ามาแหยมกับประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา ถ้าไม่เจ๋งจริง ฆ่าลูกพี่ใหญ่ไม่ได้ ซึ่งตอนปฏิบัติภารกิจนั้น หน่วย ซีล ทีมหกทุกคน จะมีกล้องออนไลน์ติดอยู่ที่หมวก เพื่อรายงานสดจากสถานที่และเหตุการ์ณจริงส่งตรงไปให้ท่านผู้นำประเทศมหาอำนาจได้ดู ใช้เวลาเป็นเซี้ยวเท่านั้น ก็สามารถปลิดชีพได้ทั้งหมด รวมไปถึงภรรยาของผู้ก่อการร้าย ผู้นี้ได้ด้วย หลังจากปลิดชีพได้ ก็นำศพมาตรวจดูให้แน่ใจว่าตายสนิท หลังจากนั้น ก็นำศพไปทิ้งที่กลางมหาสมุทร เพื่อให้แน่ใจว่า ตายแล้วตายจริง จะไม่กลับมาฟื้นให้เป็นภาระอีกรอบสอง เอาคะแนนไปร้อยเต็มเลยครับ สำหรับภาระกิจอันยิ่งใหญ่ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ

หนังสือนิยายวรรณกรรมเยาวชน อีกเรื่องที่ทำให้ซึ้งกินใจครับ เรื่องนี้พ่อของผมซื้อมาอ่านเองเป็นหนังสือที่วางไว้กลางบ้าน ทุกคนในบ้านพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอ่านจนครบ น่าปลื้มใจครับ ส่วนตัวผมเองตอนแรกไม่ได้สนใจที่จะอ่านมัน ในวันที่ไฟในบ้านดับนั่นแหละครับไม่มีอะไรทำเลยหยิบมาอ่าน ก็ต้องบอกเลยครับว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ผมคิดว่าจะต้องได้รางวัลสาขาไหน สาขาหนึ่งแน่ๆ เพราะว่าเขียนได้ดีมากจริงๆครับ เป็นหนังสือที่สะท้อนชีวิตของเด็กชายคนหนึ่งได้ดีมาก คือแบบว่าสะท้อนชีวิตที่จะต้องเจอเรื่องร้ายๆ ไม่ใช่ว่าเด็กจะคิดไม่เป็น ขึ้นชื่อว่าเกิดมาเป็นคนก็คิดได้เองหมดครับ อะไรประมาณนี้ คือคนที่ท้ออยู่ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้เลยครับ หรือแบบทะเลาะกับพ่อกับแม่แล้วมาลองอ่านก็ได้ รับรองว่าเปลี่ยนความคิดที่จะหนีออกจากบ้านไปได้แน่ๆ คือเนื้อเรื่องมันเป็นแบบดราม่ามากครับ คือตอนอ่านนี่ต้องตั้งใจอ่านมากๆ ถ้าเข้าถึงอารมณ์ของหนังสือเล่มนี้ได้จริงๆรับรองเลยครับว่าน้ำตาแตกแน่นอน ในหนังสือเขาก็จะสอนความรักของแม่ด้วย แล้วก็สอนความรักที่จะหาได้จากคนรอบรอบข้าง การใช้ชีวิตที่คิดไปเองมันแย่ขนาดไหน คือสื่อออกมาได้ดีมากๆครับเพราะเรื่องคนหายคนหนีออกจากบ้านนี่เหมือนกลายเป็นปัญหาหลักของบ้านเราไปซะแล้ว หนังสือเหมาะกับทุกคนครับ โดยเฉพาะคุณพ่อและคุณแม่ที่มีครอบครัวใหม่แล้วมีลูกติดมาด้วยควรอ่านมากๆ

หนังสือนิยายวรรณกรรมเยาวชน อีกเรื่องที่ทำให้ซึ้งกินใจครับ เรื่องนี้พ่อของผมซื้อมาอ่านเองเป็นหนังสือที่วางไว้กลางบ้าน ทุกคนในบ้านพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอ่านจนครบ น่าปลื้มใจครับ ส่วนตัวผมเองตอนแรกไม่ได้สนใจที่จะอ่านมัน ในวันที่ไฟในบ้านดับนั่นแหละครับไม่มีอะไรทำเลยหยิบมาอ่าน ก็ต้องบอกเลยครับว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ผมคิดว่าจะต้องได้รางวัลสาขาไหน สาขาหนึ่งแน่ๆ เพราะว่าเขียนได้ดีมากจริงๆครับ เป็นหนังสือที่สะท้อนชีวิตของเด็กชายคนหนึ่งได้ดีมาก คือแบบว่าสะท้อนชีวิตที่จะต้องเจอเรื่องร้ายๆ ไม่ใช่ว่าเด็กจะคิดไม่เป็น ขึ้นชื่อว่าเกิดมาเป็นคนก็คิดได้เองหมดครับ อะไรประมาณนี้ คือคนที่ท้ออยู่ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้เลยครับ หรือแบบทะเลาะกับพ่อกับแม่แล้วมาลองอ่านก็ได้ รับรองว่าเปลี่ยนความคิดที่จะหนีออกจากบ้านไปได้แน่ๆ คือเนื้อเรื่องมันเป็นแบบดราม่ามากครับ คือตอนอ่านนี่ต้องตั้งใจอ่านมากๆ ถ้าเข้าถึงอารมณ์ของหนังสือเล่มนี้ได้จริงๆรับรองเลยครับว่าน้ำตาแตกแน่นอน ในหนังสือเขาก็จะสอนความรักของแม่ด้วย แล้วก็สอนความรักที่จะหาได้จากคนรอบรอบข้าง การใช้ชีวิตที่คิดไปเองมันแย่ขนาดไหน คือสื่อออกมาได้ดีมากๆครับเพราะเรื่องคนหายคนหนีออกจากบ้านนี่เหมือนกลายเป็นปัญหาหลักของบ้านเราไปซะแล้ว หนังสือเหมาะกับทุกคนครับ โดยเฉพาะคุณพ่อและคุณแม่ที่มีครอบครัวใหม่แล้วมีลูกติดมาด้วยควรอ่านมากๆ

นิยายที่กลายเป็นตำนานที่เอ่ยชื่อแล้วไม่มีใครไม่รู้จัก วันนี้ผมมีของชิ้นใหญ่ที่อยู่ในบ้านมารีวิวด้วยครับ ชิ้นใหญ่จริงๆกับ ชุด Box Set แฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉบับพิเศษ Signature Collection (หีบกระดาษฝาเรียบลายหินอ่อน) เซ็ทนี้ผมไม่ได้ซื้อครับ แต่น้องสาวผมเป็นคนซื้อ และมันก็ใช้เงินของผมซื้อด้วย อ้างว่าเป็นของขวัญวันเกิด ในเว็ป Batorastore ขายถูกกว่าข้างนอกครับ ผมซื้อมาจากข้างนอกด้วยราคาที่เต็มเปี่ยมทำให้กระเป๋าตังค์ถึงกับแห้งไปหลายวัน แต่เพื่อน้องสาวผมก็ยอม คือสินค้าชิ้นนี้ ทำออกมาเอาใจแฟนคลับ และ แฟนพันธุ์แท้ของแฮร์รี่ พอตตเตอร์ซะมากกว่า ซึ่งไม่ต้องบอกเลยว่าผลตอบรับจะออกมายังไง ตอนนั้นผมอยู่ ป.6 ครับที่ภาคแรกออก น้องสาวผมอยู่ ป.4 ส่วนยายนั่นก็หลงรักแฮร์รี่ไปเต็มๆ จนเมื่อสองปีที่แล้วก็เพิ่งจะดูภาคสุดท้ายจบ พอจบแล้วเป็นธรรมดาครับ ที่จะต้องมีของกิ๊ฟเซ็ทไม่เล็กไม่น้อยออกมาทำรายได้อีก ในกล่องเซ็ทนี้กับราคาเกือบ 4000 ตอนนั้นผมซื้อมา 3950 บาทครับ ในเว็ปนี้ขายแค่ 2550 บาทเอง ถือว่ามันคุ้มมากครับ ในกล่องไม่มีอะไรนอกจากหนังสือและภาพสวยๆ แต่ว่าแพ็คเก็ตของมันดึงดูดตาด้วยสีหวานรื่นลูกตาครับ จัดลงตัวเป็นอย่างดี สันของหนังสือก็ดีไซน์เก๋ครับ เรียงประกอบกันก็ออกมาเป็นภาพของฮอควอร์ด ใครที่ยังไม่มีสะสมในรุ่นซิกเนเจอร์นี่รีบหน่อยนะครับ ผมคิดว่าถ้ามันกลายเป็นเลิกผลิตแล้ว ถึงหาได้ราคาก็คงจะเหยียบขึ้นเป็นเท่าตัว

นิยายที่กลายเป็นตำนานที่เอ่ยชื่อแล้วไม่มีใครไม่รู้จัก วันนี้ผมมีของชิ้นใหญ่ที่อยู่ในบ้านมารีวิวด้วยครับ ชิ้นใหญ่จริงๆกับ ชุด Box Set แฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉบับพิเศษ Signature Collection (หีบกระดาษฝาเรียบลายหินอ่อน) เซ็ทนี้ผมไม่ได้ซื้อครับ แต่น้องสาวผมเป็นคนซื้อ และมันก็ใช้เงินของผมซื้อด้วย อ้างว่าเป็นของขวัญวันเกิด ในเว็ป Batorastore ขายถูกกว่าข้างนอกครับ ผมซื้อมาจากข้างนอกด้วยราคาที่เต็มเปี่ยมทำให้กระเป๋าตังค์ถึงกับแห้งไปหลายวัน แต่เพื่อน้องสาวผมก็ยอม คือสินค้าชิ้นนี้ ทำออกมาเอาใจแฟนคลับ และ แฟนพันธุ์แท้ของแฮร์รี่ พอตตเตอร์ซะมากกว่า ซึ่งไม่ต้องบอกเลยว่าผลตอบรับจะออกมายังไง ตอนนั้นผมอยู่ ป.6 ครับที่ภาคแรกออก น้องสาวผมอยู่ ป.4 ส่วนยายนั่นก็หลงรักแฮร์รี่ไปเต็มๆ จนเมื่อสองปีที่แล้วก็เพิ่งจะดูภาคสุดท้ายจบ พอจบแล้วเป็นธรรมดาครับ ที่จะต้องมีของกิ๊ฟเซ็ทไม่เล็กไม่น้อยออกมาทำรายได้อีก ในกล่องเซ็ทนี้กับราคาเกือบ 4000 ตอนนั้นผมซื้อมา 3950 บาทครับ ในเว็ปนี้ขายแค่ 2550 บาทเอง ถือว่ามันคุ้มมากครับ ในกล่องไม่มีอะไรนอกจากหนังสือและภาพสวยๆ แต่ว่าแพ็คเก็ตของมันดึงดูดตาด้วยสีหวานรื่นลูกตาครับ จัดลงตัวเป็นอย่างดี สันของหนังสือก็ดีไซน์เก๋ครับ เรียงประกอบกันก็ออกมาเป็นภาพของฮอควอร์ด ใครที่ยังไม่มีสะสมในรุ่นซิกเนเจอร์นี่รีบหน่อยนะครับ ผมคิดว่าถ้ามันกลายเป็นเลิกผลิตแล้ว ถึงหาได้ราคาก็คงจะเหยียบขึ้นเป็นเท่าตัว

หนังสือนิยายยอดเยี่ยมอีกเล่มหนึ่งที่ผมใช้เวลาอ่านนานมากครับ นิยายแนวแฟนตาซีที่ผู้เขียนหยิบจินตนาการของตัวเองใส่ไปแบบเต็มมากๆ ใครๆก็รู้ว่าแฟนตาซีจะหยิบอะไรใส่ก็ได้ ในตัวหนังสือที่ตัวเองเขียน แม้แต่จะทำให้มดกลายเป็นหญิงสาวรูปงามก็ยังทำได้ เหมือนในหนังสือแปลเล่มนี้ครับ Abarat อบารัต : วันแห่งเวทมนตร์ คืนแห่งสงคราม คล้ายๆแนวเดียวกับ แฮรรี่ พอตเตอร์ มันส์พอๆกันเลยครับ ตอนที่ผมซื้อมาราคาก็เอาเรื่องอยู่นะครับ เกือบ สี่ร้อยบาท ส่วนมากนิยายแปลราคาก็จะอยู่ในราคาประมาณนี้ เราก็ไม่ว่ากันครับถือว่าซื้อมาเสพจินตนาการให้ตัวเอง ผมไม่รู้ว่ามันมีกี่เล่ม แต่ผมมีเล่มนี้เล่มเดียวที่ประทับใจมากตอนอ่าน คนแปลเก่งมากครับ ใช้ภาษาได้สวยเหมือนนิยายไทยจริงๆ ส่วนคนแต่งนิยายแฟนตาซีเรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงครับ ผมให้ใจไปเต็มๆ เดี๋ยวเนื้อเรื่องย่อจะมาทีหลังนะครับ เล่มนี้ผมขอแนะนำจริงๆให้เพื่อนๆที่เสพนิยายแฟนตาซีอยู่แล้ว ต้องมาประชันจินตนาการกับเรื่องนี้เลย รับรองไม่ผิดหวังครับ ผมให้ดาวเต็ม เรื่องนี้ก็คือว่าสเป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงชื่อแคนดี้ ก็ใช้ชีวิตปกติครับ จนวันหนึ่งต้องทำการบ้านส่งครู เพราะไอ้ทำการบ้านนี่แหละ เลยได้ไปพัวพันกับเรื่องลึกลับ แล้วเด็กสาวก็เป็นตัวแปรทั้งหมดกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อันนี้เรื่องย่อครับ แต่พวกฉากหรือตัวหนังสือที่โถมลงมาในนิยายมันสุดยอดกว่า ให้เต็มร้อยคะแนนไปเลยครับเรื่องนี้

หนังสือนิยายยอดเยี่ยมอีกเล่มหนึ่งที่ผมใช้เวลาอ่านนานมากครับ นิยายแนวแฟนตาซีที่ผู้เขียนหยิบจินตนาการของตัวเองใส่ไปแบบเต็มมากๆ ใครๆก็รู้ว่าแฟนตาซีจะหยิบอะไรใส่ก็ได้ ในตัวหนังสือที่ตัวเองเขียน แม้แต่จะทำให้มดกลายเป็นหญิงสาวรูปงามก็ยังทำได้ เหมือนในหนังสือแปลเล่มนี้ครับ Abarat อบารัต : วันแห่งเวทมนตร์ คืนแห่งสงคราม คล้ายๆแนวเดียวกับ แฮรรี่ พอตเตอร์ มันส์พอๆกันเลยครับ ตอนที่ผมซื้อมาราคาก็เอาเรื่องอยู่นะครับ เกือบ สี่ร้อยบาท ส่วนมากนิยายแปลราคาก็จะอยู่ในราคาประมาณนี้ เราก็ไม่ว่ากันครับถือว่าซื้อมาเสพจินตนาการให้ตัวเอง ผมไม่รู้ว่ามันมีกี่เล่ม แต่ผมมีเล่มนี้เล่มเดียวที่ประทับใจมากตอนอ่าน คนแปลเก่งมากครับ ใช้ภาษาได้สวยเหมือนนิยายไทยจริงๆ ส่วนคนแต่งนิยายแฟนตาซีเรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงครับ ผมให้ใจไปเต็มๆ เดี๋ยวเนื้อเรื่องย่อจะมาทีหลังนะครับ เล่มนี้ผมขอแนะนำจริงๆให้เพื่อนๆที่เสพนิยายแฟนตาซีอยู่แล้ว ต้องมาประชันจินตนาการกับเรื่องนี้เลย รับรองไม่ผิดหวังครับ ผมให้ดาวเต็ม เรื่องนี้ก็คือว่าสเป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงชื่อแคนดี้ ก็ใช้ชีวิตปกติครับ จนวันหนึ่งต้องทำการบ้านส่งครู เพราะไอ้ทำการบ้านนี่แหละ เลยได้ไปพัวพันกับเรื่องลึกลับ แล้วเด็กสาวก็เป็นตัวแปรทั้งหมดกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อันนี้เรื่องย่อครับ แต่พวกฉากหรือตัวหนังสือที่โถมลงมาในนิยายมันสุดยอดกว่า ให้เต็มร้อยคะแนนไปเลยครับเรื่องนี้

หนังสือเล่มนี้ออกแนวหนังสือตลกร้ายครับ ผมซื้อมาอ่านตอนที่ไปทำธุระที่กรุพเทพแล้วได้ไปเดินร้านหนังสือพอดีไปเจอหนังสือปกสีสันสะดุดตา ชื่อหนังสือก็ชวนให้อ่าน ผมเลยต้องซื้อมา โหดมันฮา ข้าคือทหารเกณฑ์ อันนี้ฮาจริงครับ มันเป็นเรื่องที่บอกเล่าเรื่องราวของคนๆหนึ่งที่ได้ใบแดงแล้วต้องไปใช้ชีวิตทหารเกณฑ์หรือที่เขาเรียกกันจนติดปากว่าพวก แก๊ว นั่นแหละครับ ที่ผมซื้อเพราะว่าผมเคยเป็นแก๊วมาก่อนนั่นเอง ในสมัยที่ยังหนุ่มๆก็ฮึกเหิมครับ สมัครเลยไม่ต้องจับใบดำใบแดง ใจลูกผู้ชายอยู่แล้ว แต่พอเข้าไปในนั้นก็แทบนั่งร้องไห้ครับ มันก็โหดจริงไรจริงเหมือนในหนังสือที่บอก เรื่องตลกๆขำๆก็มีครับ มีพอๆกับเรื่องโหดนั่นแหละ คือหนังสือเล่มนี้เขาก็จะบอกเรื่องราวจริงที่ตัวเองได้เจอตอนที่เป็นทหารเกณฑ์ เหมือนกับผมที่เคยเป็นนี่แหละครับ ผมว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะขายดีในกลุ่มทหารวัยรุ่น หรือพวกทหารที่ปลดประจำการแล้ว ใครที่อยากจะรำลึกความหลังต้องซื้อไปอ่านจริงครับ หนังสือดี แล้วก็ฮาจริงๆ ผมชอบหนังสือเรื่องจริงแบบนี้ เรื่องจริงที่ไม่ดูจริงเกินไป แล้วก็เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องจริงแต่พยายามทำให้จริง อะไรแบบนี้ หนังสือเล่มนี้ดูเป็นธรรมชาติมากครับ ใครได้อ่านแล้วอาจจะหลงรักในความน่ารักจอมกวนของทหารเกณฑ์ก็เป็นได้ ในส่วนของหนังสือเล่มนี้ถ้าจะต้องให้เป็นคะแนนสิบคะแนน ผมขอให้เต็มสิบครับกับหนังสือชวนอารมณ์ดีเล่มนี้

หนังสือเล่มนี้ออกแนวหนังสือตลกร้ายครับ ผมซื้อมาอ่านตอนที่ไปทำธุระที่กรุพเทพแล้วได้ไปเดินร้านหนังสือพอดีไปเจอหนังสือปกสีสันสะดุดตา ชื่อหนังสือก็ชวนให้อ่าน ผมเลยต้องซื้อมา โหดมันฮา ข้าคือทหารเกณฑ์ อันนี้ฮาจริงครับ มันเป็นเรื่องที่บอกเล่าเรื่องราวของคนๆหนึ่งที่ได้ใบแดงแล้วต้องไปใช้ชีวิตทหารเกณฑ์หรือที่เขาเรียกกันจนติดปากว่าพวก แก๊ว นั่นแหละครับ ที่ผมซื้อเพราะว่าผมเคยเป็นแก๊วมาก่อนนั่นเอง ในสมัยที่ยังหนุ่มๆก็ฮึกเหิมครับ สมัครเลยไม่ต้องจับใบดำใบแดง ใจลูกผู้ชายอยู่แล้ว แต่พอเข้าไปในนั้นก็แทบนั่งร้องไห้ครับ มันก็โหดจริงไรจริงเหมือนในหนังสือที่บอก เรื่องตลกๆขำๆก็มีครับ มีพอๆกับเรื่องโหดนั่นแหละ คือหนังสือเล่มนี้เขาก็จะบอกเรื่องราวจริงที่ตัวเองได้เจอตอนที่เป็นทหารเกณฑ์ เหมือนกับผมที่เคยเป็นนี่แหละครับ ผมว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะขายดีในกลุ่มทหารวัยรุ่น หรือพวกทหารที่ปลดประจำการแล้ว ใครที่อยากจะรำลึกความหลังต้องซื้อไปอ่านจริงครับ หนังสือดี แล้วก็ฮาจริงๆ ผมชอบหนังสือเรื่องจริงแบบนี้ เรื่องจริงที่ไม่ดูจริงเกินไป แล้วก็เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องจริงแต่พยายามทำให้จริง อะไรแบบนี้ หนังสือเล่มนี้ดูเป็นธรรมชาติมากครับ ใครได้อ่านแล้วอาจจะหลงรักในความน่ารักจอมกวนของทหารเกณฑ์ก็เป็นได้ ในส่วนของหนังสือเล่มนี้ถ้าจะต้องให้เป็นคะแนนสิบคะแนน ผมขอให้เต็มสิบครับกับหนังสือชวนอารมณ์ดีเล่มนี้

ข้าวคลุกแมว แค่ชื่อหนังสือก็น่ารักกินขาดชวนให้อ่านแล้วครับ เป็นหนังสือที่ไม่จำกัดอายุในการอ่านครับ สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัยเลย หนังสือเรื่องราวดีๆสำหรับคนรักแมว บอกเลยว่าคนรักแมวไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้ หรือ ถ้าใครที่ไม่รักแมวลองยื่นหนังสือเล่มนี้ให้เขาอ่านดูครับ น่าจะเปลี่ยนทัศนคติ หรือเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ในหนังสือก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแมวซะส่วนใหญ่ บอกเล่าผ่านโดยเด็กหญิง อายุ 12ปี อยู่ ป.6 ที่อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นแล้วในบ้านของเด็กคนนี้ก็มีแมวน่ารักๆอยู่หลายตัวด้วย บางตัวก็อายุเยอะแล้ว แอบสงสัยเลี้ยงยังไงให้อายุยืนได้ขนาดนี้ คนเขียนน่าจะเป็นพ่อของเด็กหญิงคนนนี้ที่เล่าเรื่องแมวแหละครับเพราะพ่อของเธอเป็นนักเขียน น่าจะอยากถ่ายถอดอารมณ์ของลูกสาวออกมาเป็นตัวหนังสือบ้าง หนังสือเล่มนี้ผมซื้อมาเองครับ ด้วยเหตุที่ว่าผมเป็นคนรักแมวไม่มีอะไรมาก หนังสือเล่มบางครับ ไม่หนามาก อ่านไม่นานก็จบ แอบยิ้มเล้กยิ้มน้อยไปกับแมวของเด็กหญิงเพราะว่าแมวที่บ้านผมก็ซนแบบนี้แหละครับ เรื่องราวในหนังสือส่วนมากก็จะมาเล่าเรื่องของแมว วีรกรรมแสบๆของแมวนั่นแหละครับ ใครเลี้ยงแมวก็จะรู้กันดีว่าพวกเหมียวนั้นมันซนกันมากแค่ไหน ส่วนเด็กหญิงคนนี้ก็แจ้งเกิดไปพร้อมกับแมวเธอเรียบร้อยแล้วครับ ยอมรับว่าทึ่งในการเล่าเรื่องของเธอ เป็นเด็กแบบใสๆไม่มีปรุงแต่ง อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นลูกสาวของพ่อนักเขียนนั่นเอง

ข้าวคลุกแมว แค่ชื่อหนังสือก็น่ารักกินขาดชวนให้อ่านแล้วครับ เป็นหนังสือที่ไม่จำกัดอายุในการอ่านครับ สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัยเลย หนังสือเรื่องราวดีๆสำหรับคนรักแมว บอกเลยว่าคนรักแมวไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้ หรือ ถ้าใครที่ไม่รักแมวลองยื่นหนังสือเล่มนี้ให้เขาอ่านดูครับ น่าจะเปลี่ยนทัศนคติ หรือเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ในหนังสือก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแมวซะส่วนใหญ่ บอกเล่าผ่านโดยเด็กหญิง อายุ 12ปี อยู่ ป.6 ที่อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นแล้วในบ้านของเด็กคนนี้ก็มีแมวน่ารักๆอยู่หลายตัวด้วย บางตัวก็อายุเยอะแล้ว แอบสงสัยเลี้ยงยังไงให้อายุยืนได้ขนาดนี้ คนเขียนน่าจะเป็นพ่อของเด็กหญิงคนนนี้ที่เล่าเรื่องแมวแหละครับเพราะพ่อของเธอเป็นนักเขียน น่าจะอยากถ่ายถอดอารมณ์ของลูกสาวออกมาเป็นตัวหนังสือบ้าง หนังสือเล่มนี้ผมซื้อมาเองครับ ด้วยเหตุที่ว่าผมเป็นคนรักแมวไม่มีอะไรมาก หนังสือเล่มบางครับ ไม่หนามาก อ่านไม่นานก็จบ แอบยิ้มเล้กยิ้มน้อยไปกับแมวของเด็กหญิงเพราะว่าแมวที่บ้านผมก็ซนแบบนี้แหละครับ เรื่องราวในหนังสือส่วนมากก็จะมาเล่าเรื่องของแมว วีรกรรมแสบๆของแมวนั่นแหละครับ ใครเลี้ยงแมวก็จะรู้กันดีว่าพวกเหมียวนั้นมันซนกันมากแค่ไหน ส่วนเด็กหญิงคนนี้ก็แจ้งเกิดไปพร้อมกับแมวเธอเรียบร้อยแล้วครับ ยอมรับว่าทึ่งในการเล่าเรื่องของเธอ เป็นเด็กแบบใสๆไม่มีปรุงแต่ง อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นลูกสาวของพ่อนักเขียนนั่นเอง

อาชญารมณ์ต่อเนื่อง เรื่องนี้เป็นหนังสือเรื่องโปรดของพ่อผมเองครับ ซึ่งบอกก่อนเลยว่าเด็กๆอย่างเราไม่มีวันอ่านเข้าใจแน่นอน ตัวของผมเองว่าโลกส่วนตัวสูงแล้ว ความเข้าใจเป็นเลิศ พอผมมาเจอเรื่องนี้เข้าไปถึงกับตายสนิท เด็กติสท์ยังไม่เท่าผู้ใหญ่ติสท์เลยครับบอกตรงๆ อันนี้ต้องขอยอมให้กับผู้ใหญ่ที่มีโลกส่วนตัวสูงจริงๆ หนังสือเรื่อง อาชญารมณ์ต่อเนื่อง เหมาะแก่ผู้อ่านอายุ 35 ปีขึ้นไปครับ เพราะเนื้อหาในหนังสือค่อนข้างที่จะมีความเป็นผู้ใหญ่สูงอยู่มากๆ เด็กอายุน้อยๆ หรือวัยรุ่นอายุตอนปลายๆ ผมบอกเลยครับว่าไม่เข้าใจแน่นอน ภาษาในการอ่านไม่ยากครับ ไม่ได้ใช้ภาษาที่สำบัติสำนวนมาก แต่ก็ถือว่าภาษาที่ใช้ในการเขียนยังคงความสวยงามอยู่ ตัวผมเองอ่านแล้วครับ จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกแต่ก็พอจะจับใจความได้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดของคนอะไรประมาณนี้ แต่ผมก็ไม่เข้าใจตรงหน้าปกที่เป็นรูปแมวนี่แหละครับว่ามันเกี่ยวกันยังไง ดูจากปกเอาครับว่าโลกส่วนตัวสูงหรือไม่สูง ดูจากปกเลยครับไม่ขออธิบายอะไรมากไปกว่านี้ รูปแมวลายหินอ่อนมีหางเป็นมีดปลายแหลม เพราะผมเพิ่งซึ้งถึงผู้ใหญ่ที่ติสท์หรือโลกส่วนตัวสูงนั่นเองเลยขออ่านหนังสือแบบเงียบๆดีกว่า แต่ถ้าผู้ใหญ่อายุที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ซื้อไปอ่านก็คงจะติดใจเหมือนพ่อของผมนี่แหละครับ พ่อหวงหนังสือเล่มนี้มาก ส่วนตัวผมเองอ่านไปได้ประมาณสิบหน้าครับ ก็ค้นพบเลยว่ารอผมแก่กว่านี้แล้วผมจะมาเปิดอ่านอีกรอบหนึ่ง

อาชญารมณ์ต่อเนื่อง เรื่องนี้เป็นหนังสือเรื่องโปรดของพ่อผมเองครับ ซึ่งบอกก่อนเลยว่าเด็กๆอย่างเราไม่มีวันอ่านเข้าใจแน่นอน ตัวของผมเองว่าโลกส่วนตัวสูงแล้ว ความเข้าใจเป็นเลิศ พอผมมาเจอเรื่องนี้เข้าไปถึงกับตายสนิท เด็กติสท์ยังไม่เท่าผู้ใหญ่ติสท์เลยครับบอกตรงๆ อันนี้ต้องขอยอมให้กับผู้ใหญ่ที่มีโลกส่วนตัวสูงจริงๆ หนังสือเรื่อง อาชญารมณ์ต่อเนื่อง เหมาะแก่ผู้อ่านอายุ 35 ปีขึ้นไปครับ เพราะเนื้อหาในหนังสือค่อนข้างที่จะมีความเป็นผู้ใหญ่สูงอยู่มากๆ เด็กอายุน้อยๆ หรือวัยรุ่นอายุตอนปลายๆ ผมบอกเลยครับว่าไม่เข้าใจแน่นอน ภาษาในการอ่านไม่ยากครับ ไม่ได้ใช้ภาษาที่สำบัติสำนวนมาก แต่ก็ถือว่าภาษาที่ใช้ในการเขียนยังคงความสวยงามอยู่ ตัวผมเองอ่านแล้วครับ จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกแต่ก็พอจะจับใจความได้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดของคนอะไรประมาณนี้ แต่ผมก็ไม่เข้าใจตรงหน้าปกที่เป็นรูปแมวนี่แหละครับว่ามันเกี่ยวกันยังไง ดูจากปกเอาครับว่าโลกส่วนตัวสูงหรือไม่สูง ดูจากปกเลยครับไม่ขออธิบายอะไรมากไปกว่านี้ รูปแมวลายหินอ่อนมีหางเป็นมีดปลายแหลม เพราะผมเพิ่งซึ้งถึงผู้ใหญ่ที่ติสท์หรือโลกส่วนตัวสูงนั่นเองเลยขออ่านหนังสือแบบเงียบๆดีกว่า แต่ถ้าผู้ใหญ่อายุที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ซื้อไปอ่านก็คงจะติดใจเหมือนพ่อของผมนี่แหละครับ พ่อหวงหนังสือเล่มนี้มาก ส่วนตัวผมเองอ่านไปได้ประมาณสิบหน้าครับ ก็ค้นพบเลยว่ารอผมแก่กว่านี้แล้วผมจะมาเปิดอ่านอีกรอบหนึ่ง

ศาสตร์ สะกดรอยผี นิยายผีของคนไทยแต่งเองน่าปลื้มครับ ติดท็อปแล้วได้รับการตีพิมพ์ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างเช่นเคยครับ ขโมยน้องสาวมาอ่านอีกเช่นเคยครับ ไม่เคยซื้ออ่านเอง แต่ขอสนุกร่วมไปด้วยครับไม่เสียเงินในกระเป๋า แถมแอบหยิบมารีวิวซะอีก ในเรื่องของนิยายผีของวัยรุ่นเรื่องนี้ก็ประมาณว่า มีนักเรียนคนหนึ่งเห็นผีได้ แล้วก็มีนักเรียนในโรงเรียนก็ชอบมาสปอยใส่สีเรื่องผีให้เพื่อนฟัง รู้ไหมที่นี่มี่ประวัติ ห้องนั้นมีผี ห้องนี้มีคนตาย เสียงดังครืด คราด ครืด คราด อะไรประมาณนี้ ผมแอบตลกบางตอนครับ เพราะมันเป็นนิยายเด็กวัยใส แต่เกี่ยวกับเรื่องผีในโรงเรียนนี่แหละ เพื่อนบางคนก็ขวัญอ่อนเชื่อตามเพื่อน เชื่อไปเชื่อมา หลอกกันไปหลอกกันมา คราวนี้เจอผีโผล่จริง แบบว่าตามโบรานเขาห้ามเล่าเรื่องผี หรือว่ายิ่งกลัวยิ่งเจอ อะไรทำนองนี้ ไอ้จากที่เล่ามากๆก็มีกลุ่มพวกอยากเจอผี ไปดักดูผีบ้างอะไรบ้าง ก็เลยเป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นของเรื่องนี้ แล้วก็สาวความมันส์ของนิยายออกมาอีกหลายเล่มเลยครับ กระแสเล่มแรกดี เล่มสองก็ต้องออกเพื่อเอาใจเหล่าบรรดาแฟนคลับ แค่นี้ก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีเลยครับว่าถ้าเล่มหนึ่งคลอดออกมาแล้วแล้วถ้าเล่มสองคลอดต่อมาติดๆ นั่นพึงจำไว้เลยนะว่าต้องรีบไปหาซื้อเล่มแรกมาเก็บไว้ก่อนที่เขาจะเลิกผลิตเลยครับ แล้วเล่มสองก็ต้องรีบด้วยก่อนที่เล่มสามจะออกหนังสือดีๆสนุกๆมักมาไม่เกินห้าเล่มจบครับผมขอคอนเฟริม

ศาสตร์ สะกดรอยผี นิยายผีของคนไทยแต่งเองน่าปลื้มครับ ติดท็อปแล้วได้รับการตีพิมพ์ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างเช่นเคยครับ ขโมยน้องสาวมาอ่านอีกเช่นเคยครับ ไม่เคยซื้ออ่านเอง แต่ขอสนุกร่วมไปด้วยครับไม่เสียเงินในกระเป๋า แถมแอบหยิบมารีวิวซะอีก ในเรื่องของนิยายผีของวัยรุ่นเรื่องนี้ก็ประมาณว่า มีนักเรียนคนหนึ่งเห็นผีได้ แล้วก็มีนักเรียนในโรงเรียนก็ชอบมาสปอยใส่สีเรื่องผีให้เพื่อนฟัง รู้ไหมที่นี่มี่ประวัติ ห้องนั้นมีผี ห้องนี้มีคนตาย เสียงดังครืด คราด ครืด คราด อะไรประมาณนี้ ผมแอบตลกบางตอนครับ เพราะมันเป็นนิยายเด็กวัยใส แต่เกี่ยวกับเรื่องผีในโรงเรียนนี่แหละ เพื่อนบางคนก็ขวัญอ่อนเชื่อตามเพื่อน เชื่อไปเชื่อมา หลอกกันไปหลอกกันมา คราวนี้เจอผีโผล่จริง แบบว่าตามโบรานเขาห้ามเล่าเรื่องผี หรือว่ายิ่งกลัวยิ่งเจอ อะไรทำนองนี้ ไอ้จากที่เล่ามากๆก็มีกลุ่มพวกอยากเจอผี ไปดักดูผีบ้างอะไรบ้าง ก็เลยเป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นของเรื่องนี้ แล้วก็สาวความมันส์ของนิยายออกมาอีกหลายเล่มเลยครับ กระแสเล่มแรกดี เล่มสองก็ต้องออกเพื่อเอาใจเหล่าบรรดาแฟนคลับ แค่นี้ก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีเลยครับว่าถ้าเล่มหนึ่งคลอดออกมาแล้วแล้วถ้าเล่มสองคลอดต่อมาติดๆ นั่นพึงจำไว้เลยนะว่าต้องรีบไปหาซื้อเล่มแรกมาเก็บไว้ก่อนที่เขาจะเลิกผลิตเลยครับ แล้วเล่มสองก็ต้องรีบด้วยก่อนที่เล่มสามจะออกหนังสือดีๆสนุกๆมักมาไม่เกินห้าเล่มจบครับผมขอคอนเฟริม

หนังสือที่เกี่ยวกับผีไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงเรียกความฮือฮาและเรียกเงินจากกระเป๋าสตางค์ของนักอ่านได้เป็นอย่างดี ตอนแรกผมคิดว่า ล้อมวงคุยเรื่องผีกับดีเจป๋อง เล่ม 1 จะออกมาได้เพียงเล่มเดียว แล้วเดี๋ยวก็ลอยหายไปในอากาศซะอีก แต่ที่ไหนได้ ออกมาแบบหลายเล่มมากครับ ถ้ากระแสตอบรับไม่ดีแล้วจะได้ออกเล่มต่อไปได้ยังไง แถมออกมาอีกหลายเล่มอีกต่างหาก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ซื้อมาอ่านครับ บอกตรงๆว่าก็ยังคงฟังเรื่องเล่าจากเรื่องจริงในยูทูปรายการเดอะช็อคนั่นแหละครับ ฟังมันเกือบทุกคืน หาเปิดหาฟังไปเรื่อยๆ พอหลังๆเริ่มรำคาญครับ ใครที่ฟังเดอะช็อคจะรู้ดีว่า ผมเกลียดรูปของมันครับ รูปที่แปะมากับเสียงในคลิปวีดีโอ รูปมันน่ากลัวครับ แล้วเสียงเพลงผีมันก็หลอนมาก หลอนมากจริงๆครับ บางทีได้ยินแล้วถึงขนาดไม่กล้าเดินไปเข้าห้องน้ำเลย อยู่ในห้องยันแม่ตื่นนั่นแหละครับ ผมถึงจะเดินไปเข้าห้องน้ำ พอหลังๆก็เริ่มกลัวกับเสียงผีหลอน ภาพหลอน แต่ก็ยังชอบเรื่องผี เลยตัดสินใจซื้อหนังสือมาอ่านเลย ตัดภาพและเสียงน่ากลัวออกไปให้หมดครับ เพราะตัวหนังสือมันส่งเสียงไม่ได้อยู่แล้ว ในหนังสือไม่มีอะไรมากครับ ส่วนมากจะมีแต่เรื่องผีที่ติดอันดับความน่ากลัวของแต่ละสัปดาห์ของแต่ละเดือนนั้นๆ ถือว่าคัดมาให้พร้อมแล้ว ไม่ต้องไปหาไล่ย้อนฟังแต่ละเรื่องในยูทูปให้เพลงผีมันตามมาหลอนประสาท

หนังสือที่เกี่ยวกับผีไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงเรียกความฮือฮาและเรียกเงินจากกระเป๋าสตางค์ของนักอ่านได้เป็นอย่างดี ตอนแรกผมคิดว่า ล้อมวงคุยเรื่องผีกับดีเจป๋อง เล่ม 1 จะออกมาได้เพียงเล่มเดียว แล้วเดี๋ยวก็ลอยหายไปในอากาศซะอีก แต่ที่ไหนได้ ออกมาแบบหลายเล่มมากครับ ถ้ากระแสตอบรับไม่ดีแล้วจะได้ออกเล่มต่อไปได้ยังไง แถมออกมาอีกหลายเล่มอีกต่างหาก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ซื้อมาอ่านครับ บอกตรงๆว่าก็ยังคงฟังเรื่องเล่าจากเรื่องจริงในยูทูปรายการเดอะช็อคนั่นแหละครับ ฟังมันเกือบทุกคืน หาเปิดหาฟังไปเรื่อยๆ พอหลังๆเริ่มรำคาญครับ ใครที่ฟังเดอะช็อคจะรู้ดีว่า ผมเกลียดรูปของมันครับ รูปที่แปะมากับเสียงในคลิปวีดีโอ รูปมันน่ากลัวครับ แล้วเสียงเพลงผีมันก็หลอนมาก หลอนมากจริงๆครับ บางทีได้ยินแล้วถึงขนาดไม่กล้าเดินไปเข้าห้องน้ำเลย อยู่ในห้องยันแม่ตื่นนั่นแหละครับ ผมถึงจะเดินไปเข้าห้องน้ำ พอหลังๆก็เริ่มกลัวกับเสียงผีหลอน ภาพหลอน แต่ก็ยังชอบเรื่องผี เลยตัดสินใจซื้อหนังสือมาอ่านเลย ตัดภาพและเสียงน่ากลัวออกไปให้หมดครับ เพราะตัวหนังสือมันส่งเสียงไม่ได้อยู่แล้ว ในหนังสือไม่มีอะไรมากครับ ส่วนมากจะมีแต่เรื่องผีที่ติดอันดับความน่ากลัวของแต่ละสัปดาห์ของแต่ละเดือนนั้นๆ ถือว่าคัดมาให้พร้อมแล้ว ไม่ต้องไปหาไล่ย้อนฟังแต่ละเรื่องในยูทูปให้เพลงผีมันตามมาหลอนประสาท

ทรงเจ้าเข้าผี ดูเหมือนจะเป็นนิยายเกี่ยวกับเรื่องผีที่ดูว่าจะออกอารมณ์กร่อยไปซักหน่อยนะครับ สำหรับผมนะ สำหรับคนอื่นผมไม่ทราบ อาจจะเป็นเพราะว่า ส่วนตัวผมเองไม่ค่อยชอบเรื่องที่มีวิทยาศาสตร์มาปะปนกับเรื่องไสยศาสตร์ซักเท่าไหร่ ผมอยากให้มันแยกกันออกมาโดยสิ้นเชิงเลยครับ แยกเลยแยก ไม่ต้องเอามาปนกัน ผมไม่ค่อยปลื้ม แต่มันหักมุมนิดหน่อยครับ พออ่านไปเรื่อยๆแล้วมันแทรกเรื่องผีมาแบบเต็มๆมาก ผีไหนต่อไหนนักก็ไม่รู้มาเต็ม สยองกว่าเงาผีในบ้านที่คนชอบมโนๆว่าตัวเองเห็นแว๊บๆตอนงัวเงียซะอีก ตอนแรกผมก็แบบว่าหนังสืออะไรจะวางอยู่แล้วเชียว ไปๆมาๆดันเป็นโชคดีครับ เปิดหน้าต่อไปก็ตู้มเข้าเรื่องผีในทันที มันเลยทำให้ผมตัดสินใจอ่านต่อจนจบเล่ม ทำให้เจออีกหลายผีในเรื่องเลยครับ ไม่คิดว่าผีไทยจะมีอะไรน่ากลัวขนาดนี้ มีเยอะด้วยครับ มีหลายชนิด มีหลายแบบ มีหลายลูกเล่นที่มาหลอกด้วย ขนาดอาจารย์ที่เขียนหนังสือเล่มนี้แกนั่นแหละเป็นตัวชงในเรื่องผีเลย แต่ละอย่างที่แกเจอมาเนี่ยไม่รู้ว่าสติสตางค์กลับมาได้ยังไง ถ้าเป็นผมเองคงสติหลุดลอยไปไกลป่านนี้ผมคงจะร่วงหมดหัวไปแล้ว ปรบมือให้กับนิยายครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ จะว่าเป็นนิยายหรือเรื่องเล่าดี มันออกจะกึ่งๆครับ เหมือนจะเป็นทั้งสองอย่างเลย แต่ก็รับรองว่าสนุกครับ อ่านแล้วจะติดใจ เป็นอีกเรื่องที่ผมหยิบมารีวิวให้นักอ่านหนังสือผีได้อ่านกันครับ

ทรงเจ้าเข้าผี ดูเหมือนจะเป็นนิยายเกี่ยวกับเรื่องผีที่ดูว่าจะออกอารมณ์กร่อยไปซักหน่อยนะครับ สำหรับผมนะ สำหรับคนอื่นผมไม่ทราบ อาจจะเป็นเพราะว่า ส่วนตัวผมเองไม่ค่อยชอบเรื่องที่มีวิทยาศาสตร์มาปะปนกับเรื่องไสยศาสตร์ซักเท่าไหร่ ผมอยากให้มันแยกกันออกมาโดยสิ้นเชิงเลยครับ แยกเลยแยก ไม่ต้องเอามาปนกัน ผมไม่ค่อยปลื้ม แต่มันหักมุมนิดหน่อยครับ พออ่านไปเรื่อยๆแล้วมันแทรกเรื่องผีมาแบบเต็มๆมาก ผีไหนต่อไหนนักก็ไม่รู้มาเต็ม สยองกว่าเงาผีในบ้านที่คนชอบมโนๆว่าตัวเองเห็นแว๊บๆตอนงัวเงียซะอีก ตอนแรกผมก็แบบว่าหนังสืออะไรจะวางอยู่แล้วเชียว ไปๆมาๆดันเป็นโชคดีครับ เปิดหน้าต่อไปก็ตู้มเข้าเรื่องผีในทันที มันเลยทำให้ผมตัดสินใจอ่านต่อจนจบเล่ม ทำให้เจออีกหลายผีในเรื่องเลยครับ ไม่คิดว่าผีไทยจะมีอะไรน่ากลัวขนาดนี้ มีเยอะด้วยครับ มีหลายชนิด มีหลายแบบ มีหลายลูกเล่นที่มาหลอกด้วย ขนาดอาจารย์ที่เขียนหนังสือเล่มนี้แกนั่นแหละเป็นตัวชงในเรื่องผีเลย แต่ละอย่างที่แกเจอมาเนี่ยไม่รู้ว่าสติสตางค์กลับมาได้ยังไง ถ้าเป็นผมเองคงสติหลุดลอยไปไกลป่านนี้ผมคงจะร่วงหมดหัวไปแล้ว ปรบมือให้กับนิยายครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ จะว่าเป็นนิยายหรือเรื่องเล่าดี มันออกจะกึ่งๆครับ เหมือนจะเป็นทั้งสองอย่างเลย แต่ก็รับรองว่าสนุกครับ อ่านแล้วจะติดใจ เป็นอีกเรื่องที่ผมหยิบมารีวิวให้นักอ่านหนังสือผีได้อ่านกันครับ

นิยายลึกลับสยองขวัญแต่ยังไม่ค่อยสั่นประสาทซักเท่าไหร่ สำหรับผมนะ แต่อ่านแล้วก็สนุกดีครับ เล่มนี้เป็นของน้องสาว ผมแอบเอามาอ่านอีกเช่นเคย เรื่องนี้เป็นนิยายครับ ไม่ใช่เรื่องผีเรื่องจริงที่เอามาทำเป็นหนังสือ คนเขียนเก่งครับ บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ประมาณว่ามีพลังวิเศษ จะมีคนมาจ้างบ่อยๆว่าให้ไปมองว่าคนที่กำลังว่าจ้างให้ไปมองว่าเป็นคนหรือเป็นผี เนื้อเรื่องไม่ค่อยน่ากลัวสำหรับผมนะ แต่เวลาอ่านก็ลุ้นอยู่ทุกที คนเขียนเก่งครับ หันเหอารมณ์ของผู้อ่านได้ดี แล้วก็จบหักมุมแบบสวยๆ ไม่มีช้ำเลยครับ อันนี้น่านับถือในส่วนของการใช้ภาษาในการเขียนที่สามารถดึงอารมณ์คนอ่านได้ดีมาก บอกตรงๆผมไม่กลัวครับไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ แต่อ่านจนลุ้นนี่ผมยอมรับครับว่าลุ้นไปกับเรื่องจริงๆ น้องสาวผมมันอ่านจบตั้งแต่วันแรกที่ซื้อมาเลยครับ แล้วมันก็โยนเกะกะ ผมเห็นหน้าปกมันดูมืดๆทึมๆ ดาร์คๆดีผมเลยหยิบมาอ่านแล้วเดินเข้าห้องเลย กลัวน้องผมมันมาเก็บค่าอ่านหนังสือของมันด้วย แต่สรุปเรื่องแล้วก็สนุกครับผลตอบรับดีมาก เพราะน้องสาวผมตอนแรกมันติดตามอยู่ในเด็กดีพอเขาได้ตีพิมพ์ออกเป็นหนังสือน้องผมมันก็ซื้อมาอ่านเลย มันบอกว่าสนุก พอได้สัมผัสจริงๆแล้วก็สนุกจริงๆครับ น้องผมอ่านจบตอนกลางวัน ผมอ่านจบตอนกลางคืนเลยครับ วันเดียวไขข้อข้องใจในหนังสือได้หมดเลย

นิยายลึกลับสยองขวัญแต่ยังไม่ค่อยสั่นประสาทซักเท่าไหร่ สำหรับผมนะ แต่อ่านแล้วก็สนุกดีครับ เล่มนี้เป็นของน้องสาว ผมแอบเอามาอ่านอีกเช่นเคย เรื่องนี้เป็นนิยายครับ ไม่ใช่เรื่องผีเรื่องจริงที่เอามาทำเป็นหนังสือ คนเขียนเก่งครับ บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ประมาณว่ามีพลังวิเศษ จะมีคนมาจ้างบ่อยๆว่าให้ไปมองว่าคนที่กำลังว่าจ้างให้ไปมองว่าเป็นคนหรือเป็นผี เนื้อเรื่องไม่ค่อยน่ากลัวสำหรับผมนะ แต่เวลาอ่านก็ลุ้นอยู่ทุกที คนเขียนเก่งครับ หันเหอารมณ์ของผู้อ่านได้ดี แล้วก็จบหักมุมแบบสวยๆ ไม่มีช้ำเลยครับ อันนี้น่านับถือในส่วนของการใช้ภาษาในการเขียนที่สามารถดึงอารมณ์คนอ่านได้ดีมาก บอกตรงๆผมไม่กลัวครับไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ แต่อ่านจนลุ้นนี่ผมยอมรับครับว่าลุ้นไปกับเรื่องจริงๆ น้องสาวผมมันอ่านจบตั้งแต่วันแรกที่ซื้อมาเลยครับ แล้วมันก็โยนเกะกะ ผมเห็นหน้าปกมันดูมืดๆทึมๆ ดาร์คๆดีผมเลยหยิบมาอ่านแล้วเดินเข้าห้องเลย กลัวน้องผมมันมาเก็บค่าอ่านหนังสือของมันด้วย แต่สรุปเรื่องแล้วก็สนุกครับผลตอบรับดีมาก เพราะน้องสาวผมตอนแรกมันติดตามอยู่ในเด็กดีพอเขาได้ตีพิมพ์ออกเป็นหนังสือน้องผมมันก็ซื้อมาอ่านเลย มันบอกว่าสนุก พอได้สัมผัสจริงๆแล้วก็สนุกจริงๆครับ น้องผมอ่านจบตอนกลางวัน ผมอ่านจบตอนกลางคืนเลยครับ วันเดียวไขข้อข้องใจในหนังสือได้หมดเลย

หนังสือที่หน้าปกดูน่าเบื่อหน่าย แต่เนื้อหาข้างในไม่น่าเบื่อหน่ายเลยครับ อันนี้ต้องบอกว่าอาจจะเป็นเฉพาะกลุ่มผู้อ่านครับ ไม่ใช่ทุกคน ส่วนตัวผมเองชอบในเรื่องของ พลังจิต พลังชีวิต แสงออร่าในตัวคนเราอะไรประมาณนี้ ถ้าเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ผมจะชอบมากเป็นพิเศษครับ หลังจากที่ผมซื้อหนังสือเล่มนี้มาก็ไม่ได้ลงมืออ่านมันในทันที แต่อ่านเฉพาะตอนที่อารมณ์ไม่ดีครับ ช่วยได้ระดับหนึ่ง หนังสือเล่มนี้เรื่องนี้ต้องขอแนะนำกับคนที่มีโลกส่วนตัวของตัวเองจริงๆ และโลกส่วนตัวนั้นต้องสูงพอสมควรนะครับ ไม่งั้นถ้าอ่านแบบคนธรรมดา อาจจะเควี้ยงทิ้งตั้งแต่อ่านสามหน้าแรกก็เป็นได้ อันนี้ผมขำๆนะ แต่เรื่องจริงอย่างที่บอกไปตอนแรกแหละ ต้องให้คนติสท์อ่านครับ จะซึ้งถึงในอารมณ์มากกว่าคนธรรมดาแน่นอน ในหนังสือเล่มนี้จะเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ ความสงบ จิตวิญญาณ จิตใจ ออกแนวกึ่งๆธรรมะหน่อยครับ แต่แฝงไปด้วยจิตวิทยาแบบเปี่ยมล้น หรือเยอะมากๆนั่นเอง ผมเชื่อว่าบางคนถ้าอ่านดีๆแล้วทำตามถึงกับ บรรลุได้เลยครับ แต่ผมไม่ได้อยากจะอยู่ในประเภทนั้น เลยเอาไว้อ่านตอนอารมณ์ไม่ดีแบบพุ่งขึ้นสูงยังจะดีกว่า ในหนังสือไม่ได้บอกกับเรื่องจิตอย่างเดียวครับ ยังบอกกับเรื่องการใช้ชีวิตด้วย รวมไปถึงเรื่องศิลปะเล็กๆน้อยๆ คือเอาง่ายๆครับ เนื้อหาในหนังสือจะออกแนวศิลปินผู้รักสันโดษซะมากกว่า ใครไม่มีอารมณ์ศิลปินแนะนำว่าให้ไปหาอ่านเล่มอื่นดีกว่าครับ มาอ่านเล่มนี้อาจจะเข้าไม่ถึงความหมายของหนังสือ

หนังสือที่หน้าปกดูน่าเบื่อหน่าย แต่เนื้อหาข้างในไม่น่าเบื่อหน่ายเลยครับ อันนี้ต้องบอกว่าอาจจะเป็นเฉพาะกลุ่มผู้อ่านครับ ไม่ใช่ทุกคน ส่วนตัวผมเองชอบในเรื่องของ พลังจิต พลังชีวิต แสงออร่าในตัวคนเราอะไรประมาณนี้ ถ้าเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ผมจะชอบมากเป็นพิเศษครับ หลังจากที่ผมซื้อหนังสือเล่มนี้มาก็ไม่ได้ลงมืออ่านมันในทันที แต่อ่านเฉพาะตอนที่อารมณ์ไม่ดีครับ ช่วยได้ระดับหนึ่ง หนังสือเล่มนี้เรื่องนี้ต้องขอแนะนำกับคนที่มีโลกส่วนตัวของตัวเองจริงๆ และโลกส่วนตัวนั้นต้องสูงพอสมควรนะครับ ไม่งั้นถ้าอ่านแบบคนธรรมดา อาจจะเควี้ยงทิ้งตั้งแต่อ่านสามหน้าแรกก็เป็นได้ อันนี้ผมขำๆนะ แต่เรื่องจริงอย่างที่บอกไปตอนแรกแหละ ต้องให้คนติสท์อ่านครับ จะซึ้งถึงในอารมณ์มากกว่าคนธรรมดาแน่นอน ในหนังสือเล่มนี้จะเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ ความสงบ จิตวิญญาณ จิตใจ ออกแนวกึ่งๆธรรมะหน่อยครับ แต่แฝงไปด้วยจิตวิทยาแบบเปี่ยมล้น หรือเยอะมากๆนั่นเอง ผมเชื่อว่าบางคนถ้าอ่านดีๆแล้วทำตามถึงกับ บรรลุได้เลยครับ แต่ผมไม่ได้อยากจะอยู่ในประเภทนั้น เลยเอาไว้อ่านตอนอารมณ์ไม่ดีแบบพุ่งขึ้นสูงยังจะดีกว่า ในหนังสือไม่ได้บอกกับเรื่องจิตอย่างเดียวครับ ยังบอกกับเรื่องการใช้ชีวิตด้วย รวมไปถึงเรื่องศิลปะเล็กๆน้อยๆ คือเอาง่ายๆครับ เนื้อหาในหนังสือจะออกแนวศิลปินผู้รักสันโดษซะมากกว่า ใครไม่มีอารมณ์ศิลปินแนะนำว่าให้ไปหาอ่านเล่มอื่นดีกว่าครับ มาอ่านเล่มนี้อาจจะเข้าไม่ถึงความหมายของหนังสือ

วรรณคดียอดฮิตทุกยุคทุกสมัยที่ถ้าเอ่ยชื่อออกไปไม่มีใครไม่รู้จักครับ กับเรื่อง ขุนช้างขุนแผน คู่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดคู่นี้ แถมวรรณคดีเรื่องนี้ยังมีคำยอดฮิตติดปากอย่างคำว่า วันทองสองใจ มาใช้ในปัจจุบันอย่างตอนนี้ ไม่มีใครจะลืมวรรณคดี ดีๆเรื่องนี้ไปได้เลยครับ ส่วนตัวผมเองอ่านเรื่องนี้มาเกือบทั้งชีวิต ทำเป็นหนังเกรดบีผมก็ดูนะ หรือว่าทำเป็นละครตอนเย็นผมก็ดูครับ จนได้ไปเจอหนังสือเล่มนี้ที่เป็นฉบับเต็มผมเลยซื้อมาอ่านอีกรอบ เรื่องราวไม่แตกต่างจากที่เราได้รู้มาเท่าไหร่ครับ แต่มีบางฉากบางตอนที่ไม่เหมือนกันในหนังสือเรียนที่เราเคยเรียนซักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่าบางส่วนที่แรงๆนั้น กระทรวงอาจจะตัดบางส่วนที่มันไม่เหมาะกับเด็กที่อ่านออกไป แต่ในหนังสือเล่มนี้ เล่ม เล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน ฉบับสมบูรณ์ นี้จะรวมเต็มๆทุกเนื้อหาเลยครับ ผมไม่แน่ใจนะว่าเป็นของต้นฉบับเลยหรือไม่ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตที่อ่านมาผมก็ยังไม่รู้เลยครับว่าอันไหนเป็นต้นฉบับจริงๆของวรรณคดีเรื่องเด็ดเรื่องนี้ แต่เท่าที่ผมอ่านจนจบในเรื่องนี้ ฉบับสมบูรณ์ เนื้อหาของเรื่องมันค่อนข้างที่จะสมบูรณ์จริงๆครับ บางฉากบางตอนก็ยังไม่ปรากฏในหนังสือเล่มอื่น เท่าที่อ่านมานะครับ ใครที่อยากเปลี่ยนจากอ่านนิยายมาอ่านวรรณคดี ลองเรื่องไทยๆเรื่องนี้ดูครับ จะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังสนุกเหมือนเดิม ขอบคุณ ท่านสุนทร ภู่ มากครับ ที่ทำให้ลูกหลานได้มีวรรณคดี ดีๆได้อ่านกัน

วรรณคดียอดฮิตทุกยุคทุกสมัยที่ถ้าเอ่ยชื่อออกไปไม่มีใครไม่รู้จักครับ กับเรื่อง ขุนช้างขุนแผน คู่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดคู่นี้ แถมวรรณคดีเรื่องนี้ยังมีคำยอดฮิตติดปากอย่างคำว่า วันทองสองใจ มาใช้ในปัจจุบันอย่างตอนนี้ ไม่มีใครจะลืมวรรณคดี ดีๆเรื่องนี้ไปได้เลยครับ ส่วนตัวผมเองอ่านเรื่องนี้มาเกือบทั้งชีวิต ทำเป็นหนังเกรดบีผมก็ดูนะ หรือว่าทำเป็นละครตอนเย็นผมก็ดูครับ จนได้ไปเจอหนังสือเล่มนี้ที่เป็นฉบับเต็มผมเลยซื้อมาอ่านอีกรอบ เรื่องราวไม่แตกต่างจากที่เราได้รู้มาเท่าไหร่ครับ แต่มีบางฉากบางตอนที่ไม่เหมือนกันในหนังสือเรียนที่เราเคยเรียนซักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่าบางส่วนที่แรงๆนั้น กระทรวงอาจจะตัดบางส่วนที่มันไม่เหมาะกับเด็กที่อ่านออกไป แต่ในหนังสือเล่มนี้ เล่ม เล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน ฉบับสมบูรณ์ นี้จะรวมเต็มๆทุกเนื้อหาเลยครับ ผมไม่แน่ใจนะว่าเป็นของต้นฉบับเลยหรือไม่ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตที่อ่านมาผมก็ยังไม่รู้เลยครับว่าอันไหนเป็นต้นฉบับจริงๆของวรรณคดีเรื่องเด็ดเรื่องนี้ แต่เท่าที่ผมอ่านจนจบในเรื่องนี้ ฉบับสมบูรณ์ เนื้อหาของเรื่องมันค่อนข้างที่จะสมบูรณ์จริงๆครับ บางฉากบางตอนก็ยังไม่ปรากฏในหนังสือเล่มอื่น เท่าที่อ่านมานะครับ ใครที่อยากเปลี่ยนจากอ่านนิยายมาอ่านวรรณคดี ลองเรื่องไทยๆเรื่องนี้ดูครับ จะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังสนุกเหมือนเดิม ขอบคุณ ท่านสุนทร ภู่ มากครับ ที่ทำให้ลูกหลานได้มีวรรณคดี ดีๆได้อ่านกัน